วิธีการเพาะถั่วงอกในขวดน้ำพลาสติก

20:51 by ข่าวซ่า
สำหรับวันนี้ผมขอแนะนำนวัตกรรมการถั่วเพาะถั่วงอก โดยใช้ "ขวดน้ำพลาสติก"  ทุกขนาดสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุในการเพาะถั่วงอกได้ (แต่ต้องเป็นขวดเหลี่ยมเท่านั้นนะครับ..)


ฟังดูแล้ว ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจะทำได้ ... แต่ อ.นิมิตร์ เทียมมงคล ก็สามารถทำได้เล้ว ....

ก่อนจากในวันนั้น ท่านได้ให้คาถาเพาะถั่วงอกมาก็คือ ททท.(ทำ-ทัน-ที) ดังนั้น ผมและครอบครัว จึงได้ใช้คาถานี้ในการเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติกให้เพื่อนๆ ชมกัน และเมื่อเพื่อนๆ ได้ทราบวิธีการเพาะถั่วงอกอย่างง่ายๆ แล้ว อาจจะทำกินเองที่บ้านก็ได้ แบ่งให้เพื่อนบ้าน หรือวางแผนขายบ้างก็ได้นะครับ

ขอเชิญเพื่อนๆ ไปชมวิธี"การเพาะถั่วงอก" ในขวดพลาสติก แต่เรื่องนี้มี "อูคูเลเล่" เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร? ขอเชิญติดตามได้เลยนะครับ...




อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเพาะถั่วงอกประกอบด้วย


1. หัวแร้ง เอาไว้เจาะรู (ซื้อที่ร้าน 20 บาททุกอย่างก็มีครับ หรือจะใช้"ธูป"ก็ได้)

2. มีดคัตเตอร์ เอาไว้ตัดงานเล็กๆ น้อยๆ




3. กรรไกร ใช้ตัดอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ
 

4. ถุงดำ ใช้ขนาดให้เหมาะสมกับขวดที่เพาะถั่วงอก แต่ต้องตัดปลายที่ก้นถุงดำ 1 (หรือ 2 ด้านก็ได้) เพื่อใช้ระบายน้ำให้ออกจากถุง




5. ตะแกรงไนล่อนหรือตะแกรงเกล็ดปลา (เมตรละ 30 บ.) เพื่อใช้พรางแสงขวดพลาสติก ให้ตัดขนาดเท่ากับเส้นรอบรูปของขวด 1 ใบ

 

6. หนังยาง 1-2 เส้น ใช้เพื่อรัดตะแกรงไนล่อน



ขั้นตอนการทำอุปกรณ์การเพาะถั่วงอก

1. ฝาขวดน้ำ ให้เจาะรู (โดยใช้หัวแร้ง) ด้านบนของขวด 3 รู (หรือ 4 รูก็ได้) ดังรูป




2.  ขวดน้ำ (ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมเท่านั้น) ให้เจาะรูด้านใดด้านหนึ่งของขวด (โดยใช้หัวแร้ง) ถ้าเพื่อนๆ ใช้ขวดขนาดเล็ก (ดังรูป) ก็เจาะ 8 รู ถ้าใช้ขวดขนาดกลางก็เจาะ 10 รู แต่ถ้าใช้ขวดน้ำขนาด 6 ลิตรก็เจาะ 12 รูครับ

3. เปิดฝา (โดยใช้คัตเตอร์) ด้านตรงข้ามกับที่เจาะรู โดยเจาะ 3 ด้าน เหลือไว้ 1 ด้าน ดังรูป

เมื่ออุปกรณ์ครบแล้ว ก็เริ่มต้นการเพาะกันเลยนะครับ....

หมายเหตุ - การเพาะถั่วเขียว จะมีระยะเวลา~ 60 ชม. (เวลาที่แช่อาจจะเป็น เช้า สาย บ่าย เย็น ก็แล้วแต่ว่าเพื่อนๆ สะดวกเวลาไหนก็ได้ (ประยุกต์กันเอาเอง) แต่ก็นับเวลาในการทำให้ได้ 60 ชม.ก็แล้วกัน)

แต่เวลาที่ผมสะดวกในการแช่ถั่วเขียว เพื่อเริ่มทำก็คือ ตอน 3 ทุ่มนะครับ ...

(จะเป็นเวลาที่พอดีเก็บเกี่ยวช่วงเช้าของวันที่เวลาครบ 60 ชม.ครับ)




กระบวนการเพาะถั่วงอกในขวดพลาสติก มีดังนี้


1. นำถั่วเขียวมาใส่ในขวด ในปริมาณเท่ากับ 1 ข้อของขวด ดังรูป จากนั้นให้ทำความสะอาดถั่วเขียวด้วยน้ำธรรมดา สัก 2 ครั้ง


2.  ให้ใช้น้ำร้อน (100องศาเซลเซียส) 1 ส่วน นำมารวมกับน้ำธรรมดา 3 ส่วน จะได้น้ำที่อุณหภูมิประมาณ 40-45 องศาฯ ให้ใส่น้ำที่ผสมกันลงไปในขวด นับจากชั้นถั่วเขียวขึ้นไปอีก 2 ข้อ ดังรูป ให้แช่ถั่วเขียวในลักษณะขวดตั้งตรงแบบนี้ เป็นระยะเวลา 6-8 ชม.



3. ตอนนี้ 6 โมงเช้าแล้ว


หลังจากที่แช่ถั่วเขียวในน้ำที่มีอุณหภูมิ 40-45 องศาฯ แล้ว ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดา สัก 1-2 ครั้ง จากนั้นจับให้ขวดนอน ถั่วเขียวก็จะนอนตาม ดังรูป




4. นำตะแกรงไนล่อน ที่ได้ตัดไว้แล้ว มาโอบล้อมขวด ไว้เพื่อพรางแสง แต่ให้ปลายตะแกรงไนล่อนด้านหนึ่ง เสียบเข้าไปในฝาด้านที่เราเปิดฝาขวดเอาไว้ ดังรูป เพื่อให้น้ำขณะที่รดถั่วเขียว ผ่านลงไปไม่กระแทกถั่วเขียวโดยตรง




4.รดน้ำถั่วเขียวระดับที่ใส่ก็แค่ท่วมถั่วเขียว


5.จับให้ขวดนอนในถุงดำ ดังรูป และนำกะละมังในครัวมาวางรองถุงดำ เพราะอาจจะมีน้ำหยดออกมาจากถุงดำ


6. รวบปากถุง และแขวนปากถุงเอาไว้ เพื่อระบายอากาศให้ถั่วเขียว ขณะถั่วเจริญเติบโต(บ้านผมสะดวกเพาะถั่วงอกในห้องน้ำจึงแขวนไว้ใต้อ่างล้างหน้า)




7. การรดน้ำถั่วเขียว จะรด 5 ครั้งต่อวัน คือ... 6โมงเช้า 8โมงเช้า  เที่ยงวัน 6โมงเย็น และ2ทุ่ม 



(สามารถรดน้ำขวดถั่วเขียวขณะอยู่ในถุงดำเลยก็ได้ ดังรูป)

การรดน้ำ ให้ใส่น้ำลงในช่องที่เปิดเอาไว้ ระดับที่ใส่ก็แค่ท่วมถั่วเขียวก็พอครับ





8. ขณะนี้เวลาประมาณ 3 ทุ่ม (ผมเริ่มแช่ถั่วเขียวเวลา 3 ทุ่มเมื่อวานนะครับ) ดังนั้น ขณะนี้ถั่วงอกจะมีอายุ 24 ชม. แล้ว สภาพถั่วก็เป็นดังรูป ในเวลานี้ถ้าต้องการนำถั่วงอกมารับประทานก็สามารถทานได้เลยนะครับ รสชาติจะอร่อยไปอีกแบบนะครับ ไม่เชื่อลองนำไปทานดูซิครับ




48ชม.แล้ว จับถั่วงอกมาถ่ายรูปซะหน่อย



เช้าของอีกวันหนึ่งแล้ว ขณะนี้เวลาประมาณ 9 โมงเช้า หรือเวลาได้ผ่านไปประมาณ 60 ชม.แล้ว สภาพของถั่วงอกก็เป็น ดังรูป พร้อมเก็บเกี่ยวได้แล้ว




การเก็บเกี่ยวถั่วงอกที่อยู่ในขวดพลาสติกนั้น ให้ค่อยๆ ดึงถั่วงอกออกมาจากขวด และนำถั่วงอกที่ได้ไปใส่ในถังพลาสติกที่ใส่น้ำไว้ประมาณ 3/4 ถัง

จะได้ง่ายต่อการสางหมวกสีเขียว ออกจากถั่วงอก



เสร็จแล้วน่าทานไหม




ขอบคุณข้อมูลจาก  
http://www.oknation.net/blog/jarinasa/2012/05/28/entry-1
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=846783







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น